เร่งตามหา ‘น้องต่อ’ เด็ก 8 เดือนหายตัวปริศนา ขณะพ่อแม่หลับ

เร่งตามหา ‘น้องต่อ’ เด็ก 8 เดือนหายตัวปริศนา ขณะพ่อแม่หลับ

ไขปริศนาปมการหายตัวไปของ น้องต่อ เด็ก 8 เดือนหายตัวขณะที่พ่อแม่หลับ ด้านแม่วอนขอให้นำลูกมาคืน สัญญาจะไม่เอาเรื่อง เพจ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา โพสต์ข้อความตามหา น้องต่อ เด็ก 8 เดือนที่หายไปอย่างปริศนา ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. โดยน้องต่อมีรอยใบมีดโกนที่หัวเพราะเพิ่งโกนผมได้ 3-4 วัน ยังมีสร้อยเป็นเชือกหลายสีผูกไว้ที่ข้อมือขวา ปัจจุบันยังหาไม่พบ ซึ่งทางพ่อแม่ได้ร้องขอให้นำลูกมาคืน พร้อมสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่องใดๆ

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปหา นายพุทธ ชายวัย 19 ปี 

พร้อมนางสาวพิไลภรณ์ อายุ 16 ปี พ่อแม่ของเด็ก เมื่อมาถึงที่บ้านก็แม่เด็ก โดยในช่วงสายได้จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ได้พบตัวลูกชายที่หายตัวไป โดยภรรยาของนายพุทธให้การว่า ตนเองพร้อมสามีและลูกนอนหลับอยู่ในห้อง กระทั่งรู้สึกตัวคล้ายว่ามีคนอุ้มลุกไป จึงรีบลุกขึ้นแต่ไม่เห็นใครแล้ว จึงรีบตามหา ส่วนกล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้งานได้จึงไปแจ้งความที่ สภ.บางหลวง จ.นครปฐม

แม่เด็กยังเล่าอีกด้วยว่า เมื่อคืนตนอยู่ที่สถานีตำรวจและสอบปากคำกับตำรวจ มีคนมาบอกว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำสุนัขตำรวจมาช่วยค้นหาและเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ชุดประดาน้ำมาช่วยค้นหาทางน้ำ รู้สึกดีใจมีความหวังอาจจะได้เจอน้อง แต่ตนก็กังวลอาจจะมีใครมาอุ้มลูกชายหนูไปทำอะไร ไปทิ้งน้ำไปทิ่งในป่า คิดถึงลูกอยากให้ลูกกลับมาเร็วๆ ถ้ายังมีชีวิตอยู่ให้ลูกกลับมาอย่างปลอดภัย

ตำรวจนำเจ้าหน้าที่บุกค้น หมู่บ้านตู้ห่าว หลังพบว่ามีการซื้อบ้านหรู 30-50 ล้านบาท เกือบยกโครงการ พบสร้างความรบกวนคนไทยจนอยู่ไม่ได้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำหมายศาลพร้อมกำลังตำรวจเข้าตรวจค้นภายในหมู่บ้านหรูย่านซอยลาซาล หลังตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของตู้ห่าว กลุ่มธุรกิจจีนสีเทา ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับผับท็อปวัน และ ผับจินหลิง

เมื่อถึงหมู่บ้านหรูดังกล่าวพบมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยหมู่บ้านดังกล่าวมีบ้านทั้งหมด 66 หลัง มูลค่าหลังละราวๆ 30-50 ล้านบาท และมีชาวจีนเข้ามาซื้อในนามตัวแทน 50 หลัง ส่วนอีก 16 หลังที่เหลือเป็นคนไทย โดยคนไทยเริ่มทยอยขายบ้านที่ติดอยู่กับคนจีนแล้ว

จากการสืบสวนพบว่าหมู่บ้านดังกล่าวตั้งแต่ 2563 คนจีนเหล่านี้ได้เข้ามาซื้อบ้านลักษณะเป็นกลุ่มก้อนรวม 50 หลัง ซื้อด้วยเงินสด และกระจายกันอยู่เต็มหมู่บ้าน และมักจะสร้างความเดือดร้อนให้คนไทยที่อยู่อาศัย ส่งเสียงดัง จัดปาร์ตี้ สั่งอาหารไรเดอร์ตลอดทั้งคืน รวมไปถึงมีรถตู้รับส่งพริตตี้สาวเข้ามาบริการบ่อยครั้ง ทำให้คนไทยทนรับพฤติกรรมไม่ไหวและทยอยขายบ้านไป

ทั้งนี้เมื่อตำรวจคนบ้านแต่ละหลังพบว่า มีการขนย้ายข้าวของภายในบ้านและนำรถหรูไปซุกซ่อนตามจุดต่างๆ และหลบหนีออกไปแล้ว เหลือเพียงแต่คนจีนที่ไม่รู้ว่า ตู้ห่าว เข้ามอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางหลังเหลือเพียงคนรับใช้ที่เป็นคนไทยคอยชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ประวัติ ‘นิศากร วิศิษฎ์สรอรรถ’ ผู้ว่าราชการหญิงคนใหม่ของจังหวัดพัทลุง

ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบพิจารณาแต่งตั้ง นิศากร วิศิษฎ์สรอรรถ ที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ สำนักงานปลัดกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง แทนคนเก่าที่ลาออกจากปัญหาสุขภาพ นิศากร วิศิษฎ์สรอรรถ ถือเป็นผู้ว่าราชการหญิง คนที่ 3 ที่สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พิจารณาแต่งตั้ง มีประวัติการทำงานดังนี้

นางนิศากร วิศิษฎ์สรอรรถ เกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508 ปัจจุบันอายุ 57 ปี ภรรยาของ นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) นิศากร จบการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารจัดการสาธารณะ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีผลงานวิทยานิพนธ์เรื่อง ‘การบริหารจัดการคดีสิ่งแวดล้อมแนวใหม่ : การดำเนินคดีแบบกลุ่ม‘ ในปี 2562 นางนิศากร วิศิษฎ์สรอรรถ ได้รับแต่ตั้งขึ้นเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี จากนั้นจึงย้ายมาเป็นงรองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ

ในเดือนตุลาคม 2564 มีพระบนมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นิศากร วิศิษฎ์สรอรรถ เป็นตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สำนักปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)

ล่าสุด 29 พฤศจิกายน 2565 นางนิศากร วิศิษฎ์สรอรรถ ได้รับการแต่งตั้งจาก การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กระทรวงมหาดไทย ให้ นิศากรขึ้นเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงคนใหม่ แทนนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ที่ลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ

ร้อนโซเชี่ยลหลังมีคลิปลุงอ้างตำรวจชี้หน้าด่าฝรั่ง ไม่สวมหน้ากากบน BTS ด้านรถไฟฟ้าแจงไม่มีกฎแต่ขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากอนามัย กลายเป็นประเด็นร้อนในสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากที่มีผู้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ถ่ายคลิปวินาทีที่ชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนด่าชาวต่างชาติภายในรถไฟฟ้า BTS เหตุเพราะชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย

จากคลิปจะแสดงให้เห็นว่าชายคนดังกล่าวรูดซิบลงและแสดงให้เห็นเสื้อยืดที่มีตราสัญลักษณ์คล้ายหน่วยงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะชี้หน้าต่อว่าชายต่างชาติว่า คนไทยสวมหน้ากากอนามัยหมด แต่ฝรั่งกลับไม่ใส่หน้ากากอนามัย หมายความว่าอย่างไร พร้อมชี้ไปที่ฝรั่งไม่สวมหน้ากากอนามัย และบอกว่า “My Friend You อ่ะ” ซึ่งคนถ่ายคลิปจึงเลื่อนกล้องไปและเห็นใบหน้าของชาวต่างชาติที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า น้ำเต้าปูปลาออนไลน์ เว็บตรง100 ดัมมี่ออนไลน์ UFA666WIN